วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

GO to Dialogue in the dark


Dialogue in the dark




      ความรู้สึกก่อนไป Dialogue in the dark สำหรับผมนั้นมีความตื่นเต้นและความหวังที่จะได้
ประสบการณ์ใหม่ๆอยู่พอสมควรเพราะได้ยินคำชมจากเพื่อนและคนที่ไปมาว่าดีมากๆ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

        การเดินทางไปครั้งนี้ ผมออกเดินทางจากหน้ามอแล้วขึ้นรถเมล์ไปลงศาลาแดงจากนั้นได้เดินเท้าต่อไปยังตึกจามจุรี ซึ่งจากที่เพื่อนๆได้บอกมา บทเรียนแห่งความมืดนี้อยู่ในชั้น 4 แต่เมื่อผมขึ้นไปชั้น 4แล้วก็ต้องเดินกลับลงมาเพราะชั้น 4 ที่ผมไปนั้นมีแค่ศูนย์หนังสือเท่านั้น แต่เมื่อผมเปิดเน็ตถามสถานที่ตั้งของบทเรียนแห่งความมืด ทำให้ต้องขึ้นไปยังศูนย์หนังสือใหม่เพราะต้องเดินผ่านศูนย์หนังสือไปจึงจะเจอกับทางเข้าของบทเรียนแห่งความมืด

       เมื่อผมเดินไปบทเรียนแห่งความมืดก็เห็นระหว่างทางเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ผมจึงลองไปเล่นดูตามจุดต่างๆที่มีคนจัดเตรียมไว้ หลังจากนั้นผมก็ไปซื้อบัตรเพื่อจะเข้าสู่บทเรียนแห่งความมืดซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่า ผมและเพื่อนได้เข้าสู่บทเรียนแห่งความมืดกันสองคนเพราะช่วงเวลานั้นไม่มีเพื่อนๆกลุ่มอื่นๆที่มาพร้อมกัน

       "พี่หมู" เป็นชื่อคนนำทางของผม ซึ่งพี่หมูเป็นคนที่คอยนำเราไปยังสถานที่ต่างๆ ที่จำลองสถานะการของคนตาบอดในชีวิตประจำวัน ซึ่งผมขออนุญาติไม่พูดถึงกิจกรรมต่างๆเพราะคนที่ไม่เคยไป รู้กิจกรรมต่างๆจากบล็อกของผมแล้วอาจทำให้ไม่สนุกเมื่อมาสถานที่จริง พี่หมูเล่าว่าคนตาบอดมีความสามารถในการดูแลตัวเองเพราะคนที่ทำงานในบทเรียนแห่งความมืดนี้ต่างเป็นคนตาบอดที่อาศัยอยู่ไกลจากที่นี่ทุกคนเลย พี่หมูเล่าว่าคนตาบอดเพียงแค่ต้องการโอกาสจากสังคมหรือการช่วยเหลือจากผู้อื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากเราเห็นคนตาบอดแล้วต้องการที่จะช่วยเหลือให้เข้าไปถามใกล้ๆว่าต้องการความช่วยเหลือไหมพร้อมกับสะกิดหลังมือเบาๆ เพราะพี่หมูเคยเจอบางคนที่พยายามให้การช่วยเหลือแต่มาดึงกระเป๋าหรือดึงเสื้อทำให้ความรู้สึกของคนที่มองไม่เห็นรู้สึกถูกคุกคามมากกว่า

       การไปบทเรียนแห่งความมืดครั้งนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆที่ทำให้รับรู้ความรู้สึกของคนที่มองไม่เห็นมากขึ้น และลดช่องว่างของความเท่าเทียมกันในแง่ของความรู้สึกที่มีให้คนตาบอด ซึ่งผมเองรู้สึกชื่นชมและเห็นใจคนตาบอดเพราะต้องใช้ความสามารถและการจดจำเส้นทางในการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าคนทั่วไปและต้องอดทนมากกว่าคนทั่วไปมากๆเลย
 
       สุดท้ายพี่หมูได้ฝากถึงการให้เราช่วยประชาสัมพันธ์บทเรียนแห่งความมืดนี้ เพราะที่นี่จะอยู่ได้หรือไม่ก็เพราะคนที่เข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งค่าเข้าของที่นี่ผมคิดว่าถูกมากๆหากเทียบกับประสบการณ์ที่ดีและหาได้ยากแบบนี้
 
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น