วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

Interactive (Week8 Interaction Design TK PARK )




          หลังจากที่เราได้ discussion กันในห้องเรียนว่ากลุ่มไหนมีแนวทางของโปรเจคเป็นอย่างไร ในสัปดาห์นี้อาจารย์จูนได้นัดพวกเรามาเรียนนอกสถานที่เพื่อคุยถึงรายละเอียดของโปรเจคอีกครั้งแล้วทำการแลคเชอหัวข้อ Interaction Design ที่ TK Park (Thailand Knowledge Park)

          TK Park หรือ Thailand Knowledge Park ตั้งอยู่ชั้น 8ของเซนทรัลเวิล ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่นี่เพราะปกติแถวนี้ผมไม่ค่อยได้มาสักเท่าไรเพราะมาไม่ค่อยถูกครับ..ฮ่าๆ(ปกติอยู่สุพรรณไม่ค่อยได้เที่ยวสถานที่แบบนี้ครับ) ในวันนี้การเดินทางมา TK Park ของพวกผมนั้น มาด้วยการขึ้นรถแท็กซี่มากับเพื่อนๆอีก 7-8 คนโดยขึ้นแท็กซี่มากัน 2 คัน เมื่อพวกผมไปถึงเซนทรัลเวิลก็เป็นเวลาก่อนการนัดเรียนเพียงนิดเดียวจึงทำให้ไม่มีเวลาเดินเล่นเลย พอลงจากรถพวกผมก็รีบขึ้นไปเรียนเลยครับ

           หัวข้อแลคเชอร์ในวันนี้เป็นการพูดถึง Interaction Design พูดรวมๆคือการดีไซน์ให้งาน Interactive ของเรานั้นเสร็จออกมาแล้วดูดีน่าสนใจและตรงกับวัตถุประสงค์ที่จัดทำขึ้นมาโดยเนื้อหาที่เรียนนั้นมีใจความหลักๆดังนี้ครับ




           Agile เป็นกระบวนการต่างๆโดยลดขั้นตอนให้งานที่ทำนั้นเสร็จออกมารวดเร็วขึ้น โดยบริษัทที่เน้น agile นั้นบางบริษัททำการประชุมโดยการยืนเพื่อลดเวลาในการประชุมลง
           Agile Ux คือการที่ทำโปรเจคไปพร้อมกับการให้user เทสระบบไปด้วยลดเวลาในการแก้ไขหากหากการทำงานนั้นไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น (ทำไปเทสไป)



      จากแผนภาพข้างบนนี้แสดงให้เห็นถึง การวางแผนการดีไซน์ที่ดีต้องคำนึงถึง user โดยหากเป็นงาน Interactive หรือsoftware ที่ดีนั้นต้องใช้งานได้ง่าย,มีธีมงานที่ดี หรือ คำนึงวิธีการในการใช้งานและการทำแบบจำลองต่างๆ ตามแผนภาพด้านบนทั้งหมด 12ข้อ ซึ่งใน 12 ข้อนี้สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลักได้คือส่วน Discovery,Concepting และที่ขาดไม่ได้คือ Prototyping & User Testing เพราะเมื่อเรามีการทำงาน โดยการหาข้อมูลความต้องการของ user ที่ดี, มีคอนเซ็ปของงานที่ดีแล้วนั้นเมื่อทำงานจริงออกมา ต้องให้ user เป็นคนบอกว่างานของเราตรงใจของ user หรือไม่ หากมีอะไรปรับปรุงได้ก็จะเป็นผลดีต่องานที่ทำออกมามากขึ้น








Interaction Design เป็นวิธีการออกแบบ interaction ที่มีส่วนสำคัญที่ต้องคำนึงถึง













     

       อาจารย์ได้บอกว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ทุกๆคนมีความอยาก "เอาชนะ" เป็นนิสัยพื้นฐานอยู่แล้ว ในบางครั้งหากเรานำการดีไซน์ softwareหรืองานต่างๆให้มีลำดับการชนะเป็นขั้นๆ เป็นด่านๆ ก็เป็นวิธีการนึงที่ทำให้ user ไม่เบื่อและใช้เวลากับงานของเรามากขึ้น โดยมีความอยากเอาชนะมาเป็นพื้นฐานในการดีไซน์งาน












        ที่ผ่านมาเป็นการพูดถึงการดีไซน์ software หรืองาน Interactive โดยคำนึงถึงหลักต่างๆ ซึ่งอาจารย์บอกอีกว่ายังมีอีกสิ่งนึงที่จะทำให้งานของเราน่าสนใจมากขึ้นอีกคือการออกแบบ hardware ของเราให้สอดคล้องกับสรีระของมนุษย์(Ergonomics) เพราะในปัจจุบันการใช้งานต่างๆยังdesignไม่ตรงกับสรีระโดยธรรมชาติของร่างกายคน ยกตัวอย่างเช่น จากคีบอร์ดสีเหลี่ยมตรงๆก็ทำให้สอดคล้องกับร่างกายคนมากขึ้นโดยให้โค้งงอเข้าหากัน เป็นต้น



keybord ergonomic

       โดยรวมๆแล้วการดีไซน์งานInteractiveนั้นมีความจำเป็นที่ต้องให้ความใส่ใจรายละเอียดส่วนย่อยต่างๆเพื่อให้งานของเราที่ได้ออกมานั้นสามารถใช้งานได้ง่าย สะดุดตา ไม่น่าเบื่อและมีความน่าสนใจเมื่อแรกเห็น แต่หากพูดถึงหลักวิชาการแล้วการดีไซน์งาน Interactive สามารถมองเป็นมุมมองรวมๆได้ตามรูปข้างล่างที่มอง Interactiveโดยจะนำทุกหลักการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบให้ได้ชิ้นงานที่ดีออกมา


Human-computer Interaction







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น